ไฟฟ้าลัดวงจรคืออะไร
ไฟฟ้าลัดวงจร (Short Circuit) คือ การไหลของกระแสไฟฟ้าจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ที่อยู่นอกวงจรไฟฟ้าตามปกติ โดยแต่ละจุดอาจมีแรงดันไฟฟ้าต่างกัน หรือนำไฟฟ้าในประจุตรงข้ามกัน หรือเป็นสื่อนำไฟฟ้าลงดิน ส่งผลให้เกิดการถ่ายเทพลังงานเป็นจำนวนมาก จนทำให้เกิดความร้อนสูงและประกายไฟ ซึ่งนำไปสู่เหตุเพลิงไหม้ในที่สุด
ส่วนไฟดูดหรือไฟฟ้าช็อต ก็คือคำที่ใช้เรียกเหตุการณ์ไฟฟ้าลัดวงจรเช่นกัน แต่มักจะถูกใช้ในสถาณการณ์ที่มนุษย์หรือสิ่งอื่นที่ไม่อยู่ในระบบไฟฟ้าไปสัมผัสกับวงจรไฟฟ้าโดยตรง หรือการสัมผัสกับสื่อนำไฟฟ้าอย่างโลหะหรือน้ำที่กำลังมีกระแสไฟฟ้ารั่ว ก็จะถูกไฟฟ้าช็อตหรือถูกไฟดูด ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
การตรวจรับบ้านในส่วนระบบไฟฟ้า เรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจ
ไฟฟ้าลัดวงจรเกิดจากอะไร
1. ใช้คัตเอาต์ไฟฟ้าแบบเก่า
แม้ไฟฟ้าลัดวงจรไม่ได้มีสาเหตุโดยตรงมาจากการใช้คัตเอาต์แบบเก่า แต่คัตเอาต์ประเภทนี้จะตัดหรือต่อวงจรไฟฟ้าได้ก็ต่อเมื่อยกขึ้นลงด้วยมือ จึงไม่ตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัยอย่างยิ่ง
2. ฉนวนสายไฟฉีกขาด
สายไฟทุกเส้นจะมีพลาสติกห่อหุ้มเป็นฉนวนเพื่อไม่ให้ลวดนำไฟฟ้าที่อยู่ภายในสัมผัสกันเองหรือไปสัมผัสกับสิ่งอื่น หากฉนวนสายไฟฉีกขาด ลวดนำไฟฟ้าอาจไปเสียดสีกับสายไฟหรือสื่อนำไฟฟ้าอื่นจนเกิดการลัดวงจรได้
3. เครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุด
เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดล้วนมีอายุการใช้งานจำกัด หากเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าเกินไป หรือมีการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเกิดความผิดปกติจนวงจรไฟฟ้าเสียหาย สิ่งเหล่านี้ก็อาจนำไปสู่เหตุไฟฟ้าลัดวงจรและเพลิงลุกไหม้ได้ไม่ยาก
4. อุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐาน
อุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสายไฟ ปลั๊กไฟ หรือปลั๊กราง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านตลอดเวลา หากอุปกรณ์เหล่านี้ไม่มีระบบความปลอดภัยและมาตรฐานในการผลิตที่ดีพอ ก็อาจเกิดอาการปลั๊กไหม้ได้ง่าย ๆ
5. ใช้ไฟฟ้าเกินกำลัง
การใช้ไฟฟ้าเกินกำลังเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น สายไฟเส้นเล็กเกินไป ใช้กระแสไฟผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้ามากเกินไป หรือมีการต่อปลั๊กพ่วงมากเกินไป สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ามากเกินรับไหว จนเกิดเป็นความร้อนและลัดวงจรได้ในที่สุด
วิธีป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
1. ใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์
หากบ้านไหนยังใช้คัตเอาต์อยู่ ควรเปลี่ยนมาใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์โดยไว เพราะเป็นอุปกรณ์ที่มีระบบตัดกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติเมื่อพบความผิดปกติในวงจรไฟฟ้า ถือเป็นปราการด่านสำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนปลอดภัยจากไฟฟ้าลัดวงจร
3. เปลี่ยนสายไฟที่เก่าและขาด
เมื่อพบเห็นสายไฟในบ้านเริ่มกรอบหรือมีรอยฉีกขาด สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การตัดกระแสไฟฟ้าในบริเวณนั้น แล้วเปลี่ยนสายไฟใหม่โดยเร็วที่สุด แต่ถ้ายังมีความจำเป็นต้องใช้สายไฟเดิม ก็ต้องซ่อมแซมด้วยเทปพันสายไฟให้แน่นหนาที่สุด
4. ตรวจสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้า
ทุกคนในบ้านต้องเป็นหูเป็นตา หมั่นสังเกตอาการและตรวจสอบสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่เสมอ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า หากมีกลิ่นไหม้ ไฟรั่ว ทำงานผิดปกติ หรือมีสภาพเก่าจนพลาสติกกรอบ ก็ควรเลิกใช้และซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่มาทดแทน
5. เลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน
อย่าเห็นแก่ปลั๊กรางราคาถูกตามตลาดนัด หรือซื้อปลั๊กพ่วงธรรมดาที่ไร้ซึ่งระบบความปลอดภัยใด ๆ มาใช้งาน แต่ควรมองหาอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีฟิวส์ตัดกระแสไฟฟ้าในตัว และได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) จึงจะปลอดภัยที่สุด
6. เลิกใช้ไฟฟ้าเกินกำลัง
ก่อนใช้ไฟฟ้า ขอให้สังเกตว่าปลั๊กรางรองรับการใช้ไฟฟ้าได้สูงสุดกี่วัตต์ และต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ให้เกินวัตต์ที่กำหนดไว้ ส่วนการต่อปลั๊กรางเป็นทอด ๆ หรือต่อปลั๊กพ่วงหลายหัวในเต้าเสียบเดียว ก็ถือเป็นพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าที่ไม่ควรทำ
เครดิต /// https://www.ddproperty.com/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%A3-%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2-21411